Pages

Sunday, September 6, 2020

การเมือง - จุดพลุยึดอำนาจ! 'จตุพร'ฟันเปรี้ยงการเมืองถึงทางตัน ก.ย.สถานการณ์สุกงอม รธน.ส่อถูกฉีก - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

apaituberita.blogspot.com

วันอาทิตย์ ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2563, 16.56 น.

"จตุพร"เชื่อกันยายนการเมืองถึงทางตัน คาดไม่ได้แก้รธน. ส่อรธน.ถูกฉีก ชี้กันยายนสถานการณ์สุกงอม จับตาชุมนุม19ก.ย.ใครจะลงมือชิงอำนาจก่อน ยันไม่มีฝ่ายไหนเปลี่ยนแปลงได้เบ็ดเสร็จ

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2563 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการ "ลมหายใจพีซทีวี เวทีทัศน์" ว่า ขณะนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีประเด็นออกไป 2 แนวทาง คือ แก้ไขมาตรา 256 ยกเว้นหมวดที่ 1 และ 2 หรือจะแก้ไขมาตรา 272 ปิดสวิตช์ ส.ว.

อย่างไรก็ตาม การแก้ไขมาตรา 256 นั้น เหมือนเป็นการสับคัทเอาท์ แต่เนื่องจากบทเรียนตอนแก้ไขรัฐธรรมนูญในช่วงปี 2550 ในสมัยรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจนไม่สามารถดำเนินการแก้ไขได้ทั้งฉบับ ดังนั้น เพื่อจะได้มีภูมิต้านทานและลดการต่อต้านด้วยประการใดๆ ทั้งปวง หรืออาจแปรเจตนาไปในทางที่ผิดก็ยกเว้นหมวด 1 และ 2 เอาไว้

นายจตุพร กล่าวว่า มาตรา 256 เป็นมาตราเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนมาตรา 255 เป็นข้อห้ามที่เกี่ยวข้องจะเปลี่ยนแปลงประเทศ หรือระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขจะกระทำไม่ได้ แต่ที่เหลือนั้นต้องยึดอำนาจคืนมาจากสมาชิกรัฐสภา จึงหมายความว่ามาตรา 256 ให้อำนาจ ส.ส.และ ส.ว.เกินครึ่ง และถูกออกแบบให้ยากขึ้น เพราะว่า ที่เกินครึ่งนั้นจะต้อง มีเสียง ส.ว.1 ใน 3 คือ 84 คน ดังนั้น ต้องยอมรับว่าหนทางยาวมาก

ส่วนมาตรา 272 นั้น เพื่อเป็นการตัดสวิตช์ ส.ว.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งคนที่เสนอแนวทางนี้ ประเมินว่าจะมีสถานการณ์ขึ้นมาใหม่ก่อนที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จ โดยตนได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาว่า หากสถานการณ์ปัจจุบันนี้ ทั้งมาตรา 256 และมาตรา 272 จะไม่ได้แก้ไขแม้แต่มาตราเดียว

"สุดท้ายรัฐธรรมนูญปี 2560 จะถูกฉีกตามเจตนา เนื่องจากมีการเขียนเงื่อนไขมากมายอยู่ในรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการแก้ไข เพื่อให้แก้ไขได้ยาก ทั้งนี้ ตนได้พูดมาตั้งแต่ตอนต้นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้เขียนไว้เพื่อให้แก้ไขได้ แต่เป็นการเขียนไว้เพื่อส่งไม้ให้กับคณะรัฐประหารชุดใหม่"

นายจตุพร กล่าวว่า หากสถานการณ์สุกงอมในวันที่ 19 กันยายนนี้ ก็เชื่อว่าทั้งสองมาตรา จะไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งจริงๆ ไม่ได้ห่วงมาตรา 272 เรื่องปิดสวิตช์ ส.ว.เพราะหากแก้ไขมาตรา 256 ก็เท่ากับทุบคัทเอาท์ทิ้ง แต่หมายความว่า สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะไปทุกคัทเอาท์ทิ้ง หรือจะปิดสวิตช์ ท้ายที่สุดคนจะมาพังหม้อแปลงขนาดใหญ่เสียก่อน ก็คือ การยึดอำนาจ

รวมทั้งกล่าวว่า การยึดอำนาจในคราวนี้ตนเชื่อว่า คณะที่เตรียมการนั้นรออย่างใจจดใจจ่อ ขณะเดียวกันการขับเคลื่อนต่างๆ นั้น ก็หาเหตุผลรองรับ เพราะในโลกสื่อสารไร้พรมแดนนั้นจะไม่ง่ายเหมือนในอดีต เนื่องจากทุกคนเป็นเจ้าของสื่อ

ดังนั้น หากยังไม่สามารถควบคุมการสื่อสารได้อย่างเบ็ดเสร็จนั้นจะเกิดเหตุการณ์เหมือนกับประเทศตุรกี ใช้ Facebook จัดการกับคณะรัฐประหารได้อย่างราบคาบ แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลือกในการทำรัฐประหารในประเทศไทยนั้นไม่เหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้นกับประเทศเหล่านั้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการไปปิดสื่อแม้กระทั่งการยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 แต่ปัจจุบันไม่สามารถทำแบบเดิมได้อีก เพราะประชาชนมีโซเชียลมีเดียไว้ต้านคณะรัฐประหาร และสถานการณ์ขณะนี้ก็ถือว่าเปราะบาง เนื่องจากทุกอย่างเริ่มถึงทางตัน และหากโควิด-19 ระบาดอีกครั้ง ประเทศไทยก็จะยากในการต่อสู้ทางเศรษฐกิจ

นายจตุพร กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ไปทุกอย่างตนยังเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นภายในเดือนนี้ ซึ่งอาจจะไม่ใช่ชนิดที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพราะไม่มีฝ่ายใดเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้แม้แต่ฝ่ายเดียว และนี่เป็นปรากฏการณ์ครั้งใหม่ที่แต่ละฝ่ายต้องคิดว่า ทั้งกระดานนี้ไม่มีใครเบ็ดเสร็จได้ เพียงแต่ใครจะมีความชอบธรรมมากกว่าใคร

อย่างไรก็ตาม วันนี้จะมีการขับเคลื่อนอะไรก็ตาม ซึ่งแต่ละฝ่ายก็คิดและรอวันที่ 19 กันยายนนี้ ว่าจะลงมือก่อนวันที่ 19 หรือวันที่ 19 หรืออาจจะหลังวันที่ 19 แต่ตนเชื่อว่า รัฐธรรมนูญจะไม่ได้แก้แม้แต่เพียงมาตราเดียว และลงท้ายด้วยการฉีกรัฐธรรมนูญเช่นเดิม

Let's block ads! (Why?)



"เบ็ดเสร็จ" - Google News
September 06, 2020 at 04:56PM
https://ift.tt/2Z9o8G0

การเมือง - จุดพลุยึดอำนาจ! 'จตุพร'ฟันเปรี้ยงการเมืองถึงทางตัน ก.ย.สถานการณ์สุกงอม รธน.ส่อถูกฉีก - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
"เบ็ดเสร็จ" - Google News
https://ift.tt/3eIa4sb

No comments:

Post a Comment